หน้าแรก » บทความแฟรนไชส์ » แฟรนไชส์คืออะไร: เพราะไม่เข้าใจ ‘แฟรนไชส์’ รู้ให้ทัน ก่อนพลาดหมดตัว!
“แฟรนไชส์” คำนี้คุ้นหู แต่รู้จริงหรือเปล่า? หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “แฟรนไชส์” ผ่านหูอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของมัน หรืออาจจะเข้าใจแบบผิดๆ จนทำให้พลาดโอกาสในการสร้างรายได้ หรือร้ายแรงกว่านั้นคือ “พลาดท่า” เสียเงินไปกับการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า ในฐานะผู้มีประสบการณ์ ที่คลุกคลีอยู่ในวงการธุรกิจมานาน วันนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับแฟรนไชส์ให้คุณได้เข้าใจอย่างละเอียด พร้อมทั้งเปิดโปงความจริงที่หลายคนอาจมองข้าม เพื่อให้คุณรู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อของ “แฟรนไชส์เถื่อน”
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกถึงรายละเอียดต่างๆ ของแฟรนไชส์ เรามาทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมันกันก่อนดีกว่า
แฟรนไชส์ (Franchise) คือโมเดลธุรกิจที่เจ้าของแบรนด์ หรือ แฟรนไชส์ซอร์ (Franchisor) เปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทุน หรือ แฟรนไชส์ซี (Franchisee) ได้นำชื่อแบรนด์ เครื่องหมายการค้า และระบบบริหารจัดการธุรกิจไปใช้ในการขายสินค้าและบริการ ตามข้อตกลงและระยะเวลาที่กำหนด
พูดง่ายๆ ก็คือ แฟรนไชส์ซอร์เหมือน “พิมพ์เขียว” ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้ว และอนุญาตให้แฟรนไชส์ซีนำ “พิมพ์เขียว” นี้ไปใช้เพื่อสร้างธุรกิจของตัวเอง โดยมีข้อตกลงและค่าตอบแทนที่ชัดเจน
การทำธุรกิจแฟรนไชส์ไม่ได้มีแค่การลงทุนเปิดร้านแล้วจบ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายแฝงที่แฟรนไชส์ซีต้องจ่ายให้แฟรนไชส์ซอร์อย่างต่อเนื่อง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. ค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Initial Franchise Fee หรือ Entrance Fee)
นี่คือค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่แฟรนไชส์ซีต้องจ่ายให้แฟรนไชส์ซอร์ เพื่อได้รับสิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์ การดำเนินงาน และการฝึกอบรมธุรกิจ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจสูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและมูลค่าของแบรนด์ บางรายอาจต้องจ่ายหลักแสนจนถึงหลักล้านบาท!
2. ค่ารายเดือนหรือค่าธรรมเนียมการจัดการ (Royalty Fee)
หลังจากเปิดร้านไปแล้ว แฟรนไชส์ซียังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือน ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย เรียกว่าค่า Royalty Fee ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 4-6% ของยอดขายสำหรับธุรกิจอาหารและค้าปลีก และ 8-10% สำหรับธุรกิจบริการ ค่าใช้จ่ายนี้เปรียบเสมือนค่าภาษีที่ต้องจ่ายตลอดการดำเนินธุรกิจ
3. ค่าการตลาดและโฆษณา
นอกจากค่า Royalty Fee แล้ว แฟรนไชส์ซอร์บางรายยังเก็บ ค่าโฆษณา เพิ่มเติมจากแฟรนไชส์ซี โดยมักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย เพื่อสนับสนุนการตลาดของแบรนด์โดยรวม ซึ่งอาจอยู่ที่ 2-5% ของยอดขาย
4. ค่าตกแต่งร้านและอุปกรณ์
เมื่อเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ หนึ่งในข้อบังคับหลักคือร้านต้องมีดีไซน์เหมือนกับต้นฉบับ ดังนั้นแฟรนไชส์ซีต้องลงทุนในการตกแต่งร้าน ป้ายร้าน อุปกรณ์ และเฟอร์นิเจอร์ให้ตรงตามมาตรฐานของแบรนด์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมงบประมาณไว้ล่วงหน้า
5. ค่าดำเนินงานอื่นๆ
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มักถูกมองข้าม ได้แก่ ค่าเช่าพื้นที่ เงินเดือนพนักงาน ค่าสต็อกสินค้า ค่าบริหารจัดการ และค่าบริการจากแฟรนไชส์ซอร์ เช่น ค่าฝึกอบรมเพิ่มเติม ค่าระบบ POS และค่าตรวจสอบมาตรฐานร้านค้า
หลายคนคิดว่าแค่ซื้อแฟรนไชส์ก็เหมือนได้สูตรสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่ในความจริงแล้ว แม้ว่าแฟรนไชส์จะช่วยลดความเสี่ยงในการสร้างแบรนด์ใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าคุณจะประสบความสำเร็จเสมอไป!
ปัญหาที่พบได้บ่อยของแฟรนไชส์ซี คือการประเมินต้นทุนต่ำกว่าความเป็นจริง หรือละเลยค่าใช้จ่ายแฝงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรวมค่าธรรมเนียมต่างๆ แล้ว อาจทำให้กำไรที่คาดหวังไว้หายไปแทบทั้งหมด!
ตัวอย่างความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น:
✅ คนที่ต้องการทำธุรกิจแต่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน และต้องการระบบที่พร้อมใช้งาน
✅ ผู้ที่มีเงินทุนเพียงพอ และสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้
✅ คนที่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของแฟรนไชส์ซอร์ได้โดยไม่มีปัญหา
❌ คนที่ต้องการอิสระในการบริหารธุรกิจของตัวเอง
❌ ผู้ที่มีเงินทุนจำกัด และไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวได้
❌ คนที่ไม่ศึกษาระบบแฟรนไชส์ให้ดี แล้วลงทุนแบบขาดการวางแผน
แฟรนไชส์ที่ถูกต้องและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การขาย “ชื่อ” หรือ “โลโก้” แต่ต้องมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้ค่ะ
ระบบที่แข็งแกร่ง: แฟรนไชส์ซอร์ต้องมีระบบการจัดการที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกด้านของธุรกิจ ตั้งแต่การผลิต การตลาด การขาย ไปจนถึงการบริหารจัดการ
การสนับสนุนที่ต่อเนื่อง: แฟรนไชส์ซอร์ต้องให้การ
สนับสนุนแก่แฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม การให้คำปรึกษา หรือการช่วยเหลือด้านการตลาด
ความโปร่งใสและเป็นธรรม: ข้อตกลงระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีต้องมีความโปร่งใสและเป็นธรรม ทั้งในเรื่องของค่าธรรมเนียม เงื่อนไขการดำเนินงาน หรือการแบ่งผลประโยชน์
ความสัมพันธ์ที่ดี: แฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีควรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เคารพซึ่งกันและกัน และพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาธุรกิจ
หลายคนมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับแฟรนไชส์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและทำให้ “พลาดท่า” เสียเงินได้
คิดว่าแฟรนไชส์คือ “สูตรสำเร็จ”: หลายคนคิดว่าการซื้อแฟรนไชส์จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ การทำธุรกิจแฟรนไชส์ก็เหมือนกับการทำธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ และความมุ่งมั่น
มองแค่ “ค่าธรรมเนียม”: หลายคนมองแค่ค่าธรรมเนียมแรกเข้า โดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าตกแต่งร้าน หรือค่าการตลาด ซึ่งอาจทำให้งบประมาณบานปลายได้
ไม่ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ: หลายคนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์โดยไม่ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบธุรกิจ ชื่อเสียงของแฟรนไชส์ซอร์ หรือข้อตกลงต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง
ในปัจจุบัน มี “แฟรนไชส์เถื่อน” เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมักจะหลอกล่อผู้ที่ต้องการลงทุนด้วยผลตอบแทนที่สูงเกินจริง หรือสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนในแฟรนไชส์ใดๆ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแฟรนไชส์ซอร์อย่างละเอียด
ธุรกิจแฟรนไชส์จะประกอบด้วยปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายแฟรนไชส์: ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งสองฝ่ายต้องมีความเข้าใจและเป้าหมายที่ตรงกัน มีการสื่อสารที่ดี และให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน
เครื่องหมายการค้าและระบบธุรกิจ: แฟรนไชส์ซีจะได้รับสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้า และระบบธุรกิจที่พัฒนาโดยแฟรนไชส์ซอร์ ซึ่งอาจรวมถึงกระบวนการผลิต สูตรเฉพาะ ระบบบริหารจัดการ หรือเทคโนโลยีที่ถ่ายทอดให้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปในทิศทางเดียวกันภายใต้มาตรฐานของแบรนด์
โครงสร้างค่าตอบแทน: แฟรนไชส์ซีจะต้องชำระค่าตอบแทนหลัก 2 ประเภท ได้แก่
สุดท้ายนี้แม้ธุรกิจแฟรนไชส์ก็เหมือนดาบสองคม เหมือนเช่นการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ วางแผนอย่างระมัดระวัง และเข้าใจระบบธุรกิจอย่างแท้จริง ก็อาจจะประสบความสำเร็จได้ แต่ถ้าไม่ศึกษาข้อมูลให้ดี หรือทำตามกระแสอย่างเดียว ก็อาจจะทำให้พลาดหมดตัวได้เช่นกัน
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และพิจารณาถึงความพร้อมของตนเอง เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังสนใจธุรกิจแฟรนไชส์นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยค่ะ
แชร์ความรู้นี้บน Social Media
เขียนโดยทีม Longtunfranchise.com แชร์จากประสบการณ์การทำงานในด้าน การลงทุนแฟรนไชส์ พันธมิตรที่พร้อมเคียงข้างธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมา พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนทุกขั้นตอน
ศูนย์รวมธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ และ น่าลงทุน ถูกรวบรวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียว พร้อมให้คำปรึกษาด้านการตลาด และ การพัฒนาแฟรนไชส์